ข้อความที่ 1 เมื่อ » 2014-11-24 10:07:49 (IP : , ,101.51.190.182 ,, )
การจะบาดเจ็บสาหัสหรือไม่ ตำรวจจะยึด ปอ. ม.297 และ ความเห็นของแพทย์เป็นสำคัญ จะมาสรุปหรือเข้าใจเอาเองว่า ไม่สาหัส คงเป็นไปไม่ได้ และจะจ้างทนายให้ตัดคำว่าสาหัสออก ก็ยิ่งเข้าใจผิดไปใหญ่ คือเมื่อถูกดำเนินคดี ก็ต้องหาทนายช่วยเหลือในการต่อสู้คดี จะต่อสู้ว่าไม่ถึงกับสาหัสก็ได้ โดยอ้างพยานหลักฐานต่างๆประกอบในการต่อสู้คดี ส่วนศาลจะตัดสินคดีอย่างไร คือจะถุกจำคุกหรือไม่ อย่างไร เป็นดุลยพินิจของศาลเท่านั้น....แต่ถ้ามีการยินยอมชดใช้ค่าเสียหายตามควร ศาลอาจลงโทษสถานเบา และถ้ามีเหตุปัจจัย ตาม ปอ. ม.56 อาจไม่ถึงต้องถูกจำคุกก็ได้ อยู่ที่ศาลเท่านั้น ครับ....กฎหมายที่ใช้อ้างอิง ป.อาญา..
มาตรา 56 ผู้ใดกระทำความผิดซึ่งมีโทษจำคุก และในคดีนั้นศาล จะลงโทษจำคุกไม่เกินสองปี ถ้าไม่ปรากฏว่าผู้นั้นได้รับโทษจำคุกมา ก่อนหรือปรากฏว่าได้รับโทษจำคุกมาก่อน แต่เป็นโทษสำหรับความ ผิดที่ได้กระทำโดยประมาท หรือความผิดลหุโทษ เมื่อศาลได้คำนึง ถึงอายุ ประวัติ ความประพฤติ สติปัญญา การศึกษาอบรมสุขภาพ ภาวะแห่งจิต นิสัยอาชีพและสิ่งแวดล้อมของผู้นั้น หรือสภาพความผิด หรือเหตุอื่นอันควรปราณีแล้ว เห็นเป็นการสมควรศาลจะพิพากษาว่า ผู้นั้นมีความผิดแต่รอการกำหนดโทษไว้ หรือกำหนดโทษแต่รอการ ลงโทษไว้ แล้วปล่อยตัวไปเพื่อให้โอกาสผู้นั้นกลับตัวภายในระยะเวลา ที่ศาลจะได้กำหนด แต่ต้องไม่เกินห้าปีนับแต่วันที่ศาลพิพากษา โดย จะกำหนดเงื่อนไขเพื่อคุมความประพฤติของผู้นั้นด้วยหรือไม่ก็ได้
เงื่อนไขเพื่อคุมความประพฤติของผู้กระทำความผิดนั้น ศาลอาจกำหนดข้อเดียวหรือหลายข้อ ดังต่อไปนี้..........
ปอ. มาตรา ๒๙๗
ผู้ใด กระทำความผิด ฐานทำร้ายร่างกาย จนเป็นเหตุให้ ผู้ถูกกระทำร้าย รับอันตรายสาหัส ต้องระวางโทษ จำคุกตั้งแต่ หกเดือน ถึง สิบปี
อันตรายสาหัส นั้นคือ
(๑) ตาบอด หูหนวก ลิ้นขาด หรือ เสีย ฆานประสาท
(๒) เสีย อวัยวะสืบพันธุ์ หรือ ความสามารถสืบพันธุ์
(๓) เสีย แขน ขา มือ เท้า นิ้ว หรือ อวัยวะอื่นใด
(๔) หน้าเสียโฉม อย่างติดตัว
(๕) แท้งลูก
(๖) จิตพิการ อย่างติดตัว
(๗) ทุพพลภาพ หรือ ป่วยเจ็บเรื้อรัง ซึ่ง อาจถึง ตลอดชีวิต
(๘) ทุพพลภาพ หรือ ป่วยเจ็บ ด้วยอาการ ทุกขเวทนา เกินกว่า ยี่สิบวัน หรือ จนประกอบกรณียกิจ ตามปกติ ไม่ได้ เกินกว่า ยี่สิบวัน
ฆานประสาท หมายถึง ความสามารถในการรับรู้กลิ่น
มาตรานี้ ไม่มีโทษปรับ